ผู้ชมทั้งหมด 1,321
กฟผ. รอรัฐไฟเขียวเพิ่มทุนใน RATCH ชี้เพิ่มทุน 30,000 ล้านบาทรองรับแผนลงทุน 5 ปี เสริมความแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนระยะยาว ยันการลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินในอินโดนีเซียให้ผลตอบแทนสูง
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH กล่าวถึงกรณีที่ RATCH เตรียมเพิ่มทุน 30,000 ล้านบาทว่า เป็นการเพิ่มทุนเพื่อรองรับแผนการลงทุนใน 5 ปีข้างหน้าของ RATCH ตั้งเป้าใช้เงินลงทุนราว 50,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ RATCH ประกาศเพิ่มทุน 769.230770 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยจะไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering) ในอัตราส่วนไม่ต่ำกว่า 1.885 หุ้นต่อ 1 หุ้นสามัญที่ออกใหม่ โดยหากกฟผ.ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสัดส่วนร้อยละ 45 จะดำเนินเพิ่มทุนหรือไม่ต้องรอความเห็นชอบจากรัฐบาลก่อน ซึ่งถ้าหากมีการเพิ่มทุน กฟผ.ก็ต้องเพิ่มทุนราว 13,500 ล้านบาทตามสัดส่วนการถือหุ้น
อย่างไรก็ตามหาก กฟผ.เข้าเพิ่มทุนก็จะสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน ในขณะเดียวกันหากไม่เพิ่มทุนก็จะมีผลทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน RATCH ลดลง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเงินปันผลของบริษัทในเครือ ทั้ง RATCH และ เอ็กโก กรุ๊ป ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ กฟผ.มีเงินสำส่งรัฐบาล โดยกฟผ.ส่งเงินรายได้เข้ารัฐจากผลการดำเนินงาน ปี 2563 (เดือนมกราคม – ธันวามคม 2563) จำนวน 21,043.238 ล้านบาท
สำหรับแผนการลงทุนในสระยะ 5 ปีข้างหน้าของ RATCH นั้นนอกจากการเพิ่มทุนแล้วยังเป็นการใช้เงินจากผลประกอบการของบริษัท และยังมีแผนกู้เงินอีกด้วย ซึ่งการลงทุนตามแผนนั้นมองหาโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องทั้งที่เป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล และพลังงานทดแทนทั้งในไทยและต่างประเทศ เนื่องจากเป็นธุรกิจหลักในการสร้างรายได้และผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน และยังมองหาโอกาสขยายลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอีกด้วย เพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ส่วนการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังความร้อน โดยใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ขนาดกำลังผลิต 2,045 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่ Paiton Power Generation Complex ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งยังมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าสาธารณะรัฐอินโดนีเซีย หรือ PT Perusahaan Negara (PLN) คงเหลืออีก 21 ปี นั้นตนมองว่าเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง เนื่องจากการแข่งขันต่ำเพราะส่วนใหญ่นักลงทุนให้ความสนใจลงทุนพลังงานทดแทนมากกว่า
นอกจากนี้การลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินในอินโดนีเซียยังเป็นการลงทุนในประเทศที่มีทรัพยากรถ่านหินเป็นจำนวนมาก และเป็นโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อ RATCH ดำเนินการลงทุนแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมีนาคม 2565 ก็จะส่งผลให้รับรู้เป็นรายได้เข้ามาทันทีสามารถช่วยชดเชยรายได้ของโรงไฟฟ้าราชบุรีที่จะหมดอายุลง และยังเป็นการสร้างความยั่งยืนของรายได้ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้อย่างต่อเนื่องในขณะเดียวทาง RATCH ยังอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศอยู่หลายโครงการอีกด้วย