ผู้ชมทั้งหมด 1,122
กฟผ.ลั่นพร้อมเสียสละไม่รับโบนัสประมาณ 2 ปี จากผลประกอบการปี 63-64 ตอบสนองรัฐบาลสมทบเงินไปช่วยเหลือประชาชนจากผลกระทบโควิด-19 เล็งเสนอปลดระวางโรงไฟฟ้าเก่าที่ใกล้หมดอายุสัญญาซื้อ ขายไฟฟ้า 3 ปีลดสำรองไฟฟ้า
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.ในฐานะรัฐวิสาหกิจที่ร่วมดูแลสังคม และความมั่นคงของประเทศ พร้อมตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบไวรัสโควิด-19 กฟผ.อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางลดต้นทุนค่าไฟฟ้า ซึ่งการไม่รับโบนัสประมาณ 2 ปี จากผลประกอบการปี 2563-2564 ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่ให้ภาครัฐจะได้มีวงเงินส่วนนี้ไปช่วยเหลือประชาชน
ส่วนเรื่องสำรองไฟฟ้าที่สูงร้อยละ 40 หากลดต้นทุน กฟผ.ก็จะพิจารณาเสนอให้ปลดระวางโรงไฟฟ้าที่ใกล้หมดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า หรือ PPA ทั้ง ของ กฟผ. และภาคเอกชน โดยให้ดำเนินการปลดระวางโรงไฟฟ้าที่จะหมดอายุสัญญาล่วงหน้า 3 ปี ซึ่งก็จะทำให้สำรองไฟฟ้าด้วยรวมลดลง และส่งผลให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ต่ำลงด้วย
สำหรับกรณีให้เปลี่ยนใช้ Return on Invested Capital (ROIC) หรืออัตราส่วนผลตอบแทนต่อเงินลงทุนที่ในปัจจุบันกำหนดว่า กฟผ.จะต้องมีกำไรกว่าร้อยละ 5 ของโครงการลงทุน เพื่อนำเงินกำไรในส่วนนี้เป็นเงินเตรียมลงทุนด้านสายส่งและโรงไฟฟ้าใหม่ในอนาคตที่มีมูลค่าหลายแสนล้านบาทก็จะต้องดดูว่าจะกระทบและควรปรับเกณฑ์เงินกู้หรือไม่อย่างไรในอนาคต เพื่อให้ลงทุนได้ตามแผน หรือจะปรับเป็นอัตราส่วนการลงทุนจากเงินรายได้ (SFR) ก็ต้องหารือกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ต่อไป ขณะเดียวกันก็ต้องดูนโยบายจากกระทรวงการคลังด้วยว่าเม็ดเงินอัตราผลตอบแทนส่งคืนรัฐร้อยละ35-45 ของกำไรสุทธินั้นจะเรียกเพิ่มหรือไม่